วันศุกร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2562

การจดทะเบียนสมรสใหม่หลังจากการหย่า ตามกฎหมายไทยและญี่ปุ่นแตกต่างกันอย่างไร

เมื่อหย่าร้างแล้วสามารถจดทะเบียนสมรสใหม่ได้เลยทันทีหรือไม่หรือต้องมีเงื่อนไขอะไรบ้าง วันนี้เราได้นำความรู้เรื่องนี้มา อธิบายให้ทุกคนอ่าน และเข้าใจกันแบบง่ายๆนะคะ



การจดทะเบียนสมรสใหม่ตามกฎหมายไทย ฝ่ายชายสามารถสมรสใหม่ได้ทันทีหลังจากจดทะเบียนหย่า ส่วนฝ่ายหญิงกลับไม่สามารถทำได้ ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1453 ระบุว่า "หญิงที่สามีตายหรือการสมรสสิ้นสุดลงด้วยประการอื่น จะทำการสมรสใหม่ได้ต่อเมื่อการสิ้นสุดแห่งการสมรสได้ผ่านพ้นไปแล้วไม่น้อยกว่า 310 วัน" หรือพูดง่ายๆคือต้องหย่าผ่านไปแล้ว 310 วันฝ่ายหญิงถึงจะสรสใหม่ได้นั่นเอง  เหตุผลก็คือ หากฝ่ายหญิงมีการตั้งครรภ์ในระหว่างนี้ทำให้ยากต่อการจัดการกับบุตรและเรื่องมรดก  ดังนั้นกฎหมายจึงได้ออกข้อกำหนดไว้เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาและยุ่งยากตามมา จึงให้ฝ่ายหญิงมีการเว้นระยะในการจดทะเบียนสมรสใหม่



แต่!ก็ยังมีข้อยกเว้น ของกฎหมายข้อนี้ให้กับฝ่ายหญิงอยู่ก็คือ หากฝ่ายหญิงต้องการจดทะเบียนสมรสใหม่ทันที สามารถจดทะเบียนสมรสได้ แต่ฝ่ายหญิงต้องมีลัษณะใดลักษณะหนึ่งตามหัวข้อต่อไปนี้ค่ะ

1. ฝ่ายหญิงได้คลอดบุตรแล้วในระหว่างนั้น
2. ต้องการสมรสกับคู่สมรสคนเดิม
3. มีใบรับรองแพทย์ระบุว่าไม่ได้ตั้งครรภ์
4. มีคำสั่งจากศาลว่าให้สมรสได้


การจดทะเบียนสมรสใหม่ตามกฎหมาญี่ปุ่น ฝ่ายชายสามารถจดทะเบียนสมรสใหม่ได้เลยหลังจากการหย่าซึ่งเหมือนกับกฎหมายไทยเลยค่ะ  แต่สำหรับฝ่ายหญิงแล้วก็ยังมีข้อกำหนดอยู่ว่าถ้าจะจดทะเบียนสมรสกับคนใหม่ ต้องหย่าครบ 100 วัน ถึงจะสามารถจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายญี่ปุ่นได้นะคะ

   ดังนั้นกรณีที่ ฝ่ายหญิงคนไทย(ผู้ที่เคยจดทะเบียนหย่า) ต้องการจดทะเบียนสมรสกับคนญี่ปุ่นใหม่ได้นั้น ต้องเช็คกฎหมายไทยและญี่ปุ่นควบคู่กันไปด้วย ว่าการสมรสที่ถูกต้องตามกฎหมายทั้ง 2 ประเทศเป็นอย่างไรไว้ด้วยนะคะ

หากคุณต้องการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการดำเนินเอกสารจดทะเบียนสมรสระหว่างคนไทย-คนญี่ปุ่น สามารถปรึกษาโดยตรงกับเราได้ตามรายละเอียดด้านล่างเลยนะคะ คุณจะได้ไม่ต้องเสียเวลา และจะได้เข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับการจดทะเบียนสมรสของทั้ง 2 ประเทศด้วยค่ะ 


ติดต่อเราได้ที่
02-187-4009
061-402-7789 (คุณปลา)
061-386-7798 (คุณอาร์)
087-687-8719 (คุณโอตานิ)
LINE กรุณาแอดเป็นเพื่อนตามเบอร์โทรศัพท์ได้เลยนะคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น