วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2562

วีซ่าติดตามคู่สมรสคนญี่ปุ่นถูกปฏิเสธเพราะอะไร?


การขอ "วีซ่าติดตามคู่สมรสคนญี่ปุ่น" การที่คนไทยแต่งงานกับคนญี่ปุ่นและต้องการที่จะไปอาศัยอยู่ด้วยกันฉรรท์สามีภรรยาที่ประเทศญี่ปุ่น วีซ่าประเภทนี้ขอได้เฉพาะคู่ที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายกันเรียบร้อยแล้วเท่านั้น เป็น แค่แฟน หรือ คู่หมั้น ไม่สามารถขอวีซ่านี้ได้  แต่อย่างไรก็ตามก็มีหลายคู่ที่จดทะเบียนสมรสกันเรียบร้อยแล้วแต่ขอวีซ่าไม่ผ่าน หลายคนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นและทำไมถึงขอไปแล้วไม่ผ่าน สาเหตุมันมีตรงใหนบ้าง เรามาวิเคราะห์กันเลยนะคะ  

กรณีที่อาจจะถูกปฏิเสธวีซ่าได้ง่ายๆ มีดังนี้





1. คู่สมรสที่เคยมีประวัติเกี่ยวกับการขอวีซ่าญี่ปุ่น หนีวีซ่า อยู่เกินวีซ่า และอื่นๆ





2. เจอกันในระยะเวลาที่สั้นมาก





3. กรณีที่ไม่มีรูปคู่ที่ถ่ายร่วมกัน พิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นคู่กันจริง





4. อาชีพและรายได้ของคู่สมรสคนญี่ปุ่น 



5. ให้ข้อมูลการคบกันไม่เพียงพอ

      ไม่ใช่ว่าจะด้วยสาเหตุที่กล่าวมาข้างต้น หมายความว่า คุณจะขอวีซ่าไม่ผ่าน แต่การขอวีซ่าจะต้องได้รับความร่วมมือกับคู่สมรสเพื่อทำเอกสาร เพื่อพิสูจน์ให้ได้ว่าการแต่งงานของคุณเป็นการแต่งงานกันจริง ต้องการสร้างครอบครัวด้วยกันที่ประเทศญี่ปุ่นด้วยกันจริง ไม่ใช่การจดทะเบียนสมรสหรือแต่งงานกันแบบปลอมๆ เพื่ออยากได้วีซ่าเท่านั้น เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าไม่เคยเกิดขึ้น หลายๆคนคงเคยเห็นตามข่าว และคำบอกเล่ามาบ้างแล้ว ดังนั้น เมื่อคุณไม่สามารถเตรียมเอกสารหรือหลักฐานให้เพียงพอและพิสูจน์ได้ว่าการแต่งงานของคุณเป็นการแต่งงานกันจริง คุณอาจจะถูกปฏิเสธได้ ดังนั้น คู่สมรสทั้งสองฝ่ายต้องอธิบายรายละเอียดของตนเองอย่างละเอียด ถูกต้อง และเราขอให้คุณปฏิบัติตามคำแนะนำของเราตามขั้นตอนด้วย เพื่อให้การขอวีซ่าของคุณผ่านไปได้อย่างราบรื่น และได้รับวีซ่าตามที่คุณต้องการ 

      แต่ถ้าหากว่าการยื่นขอวีซ่าครั้งแรกไม่ผ่าน ไม่ต้องกังวลไปนะคะว่าจะขออีกแล้วไม่ได้ สามารถยื่นขอใหม่ได้ แต่ก็ต้องหาเหตุผลการถูกปฏิเสธครั้งแรกด้วยนะคะว่าเกิดจากอะไร เพื่อมายื่นยันเพิ่มเติมในการขอวีซ่าครั้งต่อไปค่ะ

      การยื่นขอ "วีซ่าติดตามคู่สมรสคนญี่ปุ่น"  จึงเป็นเรื่องที่คู่สมรสหลายคู่เกิดความกังวล อย่าพึ่งคิดมากไปนะคะ ขอแค่คุณเตรียมเรื่องเอกสารให้พร้อม พิสูจน์ให้ได้ว่าเป็นการแต่งงานที่แท้จริง ไม่ใช่การแต่งงานปลอม  หากคุณมีความกังวลว่าตนเองจะทำเอกสารได้ไม่ดีพอ เราก็มีทีมงานคอยให้คำปรึกษา และช่วยคุณดำเนินเรื่องเอกสารให้ได้ สามารถติดต่อสอบถามเข้ามาได้ที่

02-187-4009
061-402-7789
087-687-8719

ขอบคุณที่ไว้วางใจให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจของคุณนะคะ

วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2562

Passport ญี่ปุ่น


Passport ญี่ปุ่น หรือ หนังสือเดินทางญี่ปุ่น เป็นเอกสารสำคัญมาก เพราะเป็นหนังสือที่สามารถยืนยันตัวตน และเพื่อเป็นเอกสารที่สามารถผ่านด่าน ตม. เข้า-ออก ประทเศต่างๆได้ ซึ่งตอนนี้ผู้ที่ถือพาสปอร์ตญี่ปุ่นสามารถเดินทางเข้าออกประเทศในโลกได้ถึง 190 ประเทศโดยไม่ต้องมีวีซ่า ซึ่งตอนนี้เป็นพาสปอร์ตที่มีอิทธิพลอันดับ 1 ของโลกเลยทีเดียวนะคะ ส่วนของไทยตอนนี้อยู่ในอันดับที่ 68ของโลกที่ฟรีวีซ่าค่ะ สามารถเดินทางเข้าออกต่างประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่าถึง 77 ประเทศนะคะ ข้อมูลนี้ได้มาจากสำนักงานกฎหมายสากล "เฮนรี่แอนท์พาร์เนอร์" สามารถเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมได้นะคะ

Passport ญี่ปุ่น มีหลายประเภท แต่มี 2 ประเภทที่เห็นกันอยู่บ่อยๆคงสงสัยกันใช่มั้ยค่ะว่าแตกต่างกันอย่างไร ขออธิบายตามนี้นะคะ คือ Passport ญี่ปุ่น เล่มสีน้ำเงินเข้ม มีอายุการใช้งาน 5 ปี และ Passport ญี่ปุ่น เล่มสีแดงเลือดหมู มีอายุการใช้งาน 10 ปี ผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปสามารถเลือกได้ว่าจะทำพาสปอร์ตแบบใหน 5 ปีหรือ 10 ปี ราคาค่าธรรมเนียมในการทำต่างกันนิดหน่อยค่ะ แต่สำหรับเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ จะทำพาสปอร์ตที่มีอายุการใช้งาน 5 ปีได้เพียงอย่างเดียวนะคะ 

คุณแม่ๆหลายคนที่มีลูกกับสามีคนญี่ปุ่นที่พามาคลอดที่ไทยแล้วจะพากลับไปญี่ปุ่นด้วยกัน จะต้องทำพาสปอร์ตให้ลูกต้องทำพาสปอร์ตไทยหรือญี่ปุ่น ?

ปกติแล้วเด็กที่เกิดจากแม่คนไทยกับพ่อคนญี่ปุ่น และมีการแจ้งเกิดและขอสัญชาติทั้งไทยและญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว สามารถทำพาสปอร์ตได้ทั้ง 2 ประเทศ ตอนเดินทางออกจากประเทศไทยให้ลูกใช้พาสปอร์ตไทย พอเข้าประเทศญี่ปุ่นให้ใช้พาสปอร์ตญี่ปุ่นนะคะ เด็กจะถือพาสปอร์ต 2 เล่มอยู่ ดังนั้นคุณแม่ก็ต้องดูด้วยนะคะตอนเข้าตอนออกประเทศ เดี๋ยวถ้ายื่นพาสปอร์ตผิดไปจะมีปัญหาในการเข้าออกประเทศได้นะคะ

ใครที่อยากรู้ขั้นตอนการขอพาสปอร์ตให้ลูก และอยากดำเนินเรื่องแจ้งเกิดลูกและขอสัญชาติให้ลูกก็สามารถโทรเข้ามาปรึกษากับเราได้ที่ 

02-187-4009
061-402-7789
087-687-8719

เรามีพนักงานของเราสามารถให้คำปรึกษากับคุณได้ ติดต่อเข้ามากันเยอะๆนะคะ




วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2562

ความรู้เกี่ยวกับ Passport ไทย



Passport ไทย หรือ หนังสือเดินทางประเทศไทย เป็นหลักฐานเพื่อแสดงตัวตนของเราว่าเป็นใคร มาจากใหน สัญชาติอะไร ซึ่งเปรียบเสมือนบัตรประจำตัวประชาชนของเราทุกคนบนสากลโลก ซึ่งทุกประเทศประชาชนกรที่จะเดินทางออกนอกประเทศต้องมีหนังสือเดินทางทุกคนเพื่อตรวจสอบว่าเป็นใคร มาจากใหน สัญชาติอะไร นั่นเองค่ะ  


         อายุการทำงานของพาสปอร์ตแต่ละประเทศก็มีอายุที่แตกต่างกันไป 5ปี 10ปี แล้วแต่ละประเทศนั้นๆ ส่วนคนไทยพาสปอร์ตก็จะมีอายุ 5 ปี แต่ดูเหมือนว่าเร็วๆนี้จะปรับเปลี่ยนเป็น 10ปีค่ะ สำหรับคนที่จะไปทำพาสปอร์ตใหม่นะคะ ข้อมูลต้องนี้ถ้ามีการประกาศเปลี่ยนแปลงที่แน่นอน เดี๋ยวเราจะมาอัพเดทให้อ่านเพิ่มเติมอีกทีนึงนะคะ

ถ้า Passport กำลังจะหมดอายุสามารถเดินทางออกนอกประเทศได้หรือไม่?

     จริงๆแล้ว Passport  สามารถใช้งานได้จวบจนวันหมดอายุตามที่ได้ระบุไว้ แต่ตามหลักสากล และส่วนหน่วยงานส่วนใหญ่จะกำหนดให้ว่าพาสปอร์ตที่มีอายุน้อยกว่า 6 เดือนไม่สามารถเดินทางเข้า-ออกนอกประเทศได้ แต่ไม่ได้เป็นทุกประเทศ แต่เป็นกฎระเบียบของประเทศส่วนมากกว่า 50 ประเทศในโลก ดังนั้นก่อนที่เราจะเดินทางไปใหน มาใหนโดยใช้ Passport จึงควรตรวจสอบเอกสารของคุณให้ดีก่อน เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาตามมาภายหลังได้นะคะ

สถานที่ให้บริการทำหนังสือเดินทางในประเทศไทย

กรุงเทพมหานคร
กรมการกงสุล แจ้งวัฒนะ
สถานที่ตั้ง: ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่
โทร. 0 2203 5000 กด 1 (เมื่อเข้าสู่ระบบกรมการกงสุล กด 5 เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่)

สำนักงานหนังสือเดินทาง ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา
(รับทำเฉพาะหนังสือเดินทางราชการเท่านั้น) 
สถานที่ตั้ง: ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา (อาคารบี ประตูฝั่งทิศตะวันออก) ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่
โทร. 0 2203 5000 ต่อ 49007, 49009

สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว บางนา-ศรีนครินทร์
สถานที่ตั้ง: ชั้น 2 โซน E ศูนย์การค้าธัญญาพาร์ค บางนา-ศรีนครินทร์ โทร. 0 2136 3800

สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ปิ่นเกล้า
สถานที่ตั้ง: อาคาร SC Plaza สถานีขนส่งกรุงเทพ (สายใต้ใหม่) ถนนบรมราชชนนี
 โทร. 0 2422 3431

สำนักงานหนังสือเดินทาง ศูนย์บริการการไปทำงานต่างประเทศ
(รับทำหนังสือเดินทางเฉพาะผู้ที่มีใบส่งตัวจากกรมการจัดหางานเท่านั้น) สถานที่ตั้ง: อาคารประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ดินแดง
โทร. 0 2245 9439

สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว MRT คลองเตย
สถานที่ตั้ง: สถานีรถไฟฟ้ามหานคร (MRT) คลองเตย ถ.พระราม 4 คลองเตย
โทร. 0 2024 8896

ต่างจังหวัด
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว เชียงราย
สถานที่ตั้ง: อาคารองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) หลังใหม่ ถนนศูนย์ราชการ ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย
โทร. 0 5317 5375

สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว เชียงใหม่
สถานที่ตั้ง: ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ ถ.โชตนา ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่
โทร. 0 5389 1535-6

สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว พิษณุโลก
สถานที่ตั้ง: ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก ถ.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก 
โทร. 0 5525 8173

สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว นครสวรรค์
สถานที่ตั้ง: ศูนย์บริการร่วมจังหวัดนครสวรรค์ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ถ.พหลโยธิน อ.เมือง จ.นครสวรรค์
โทร. 0 5623 3453

สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว อุดรธานี
สถานที่ตั้ง: ศูนย์อเนกประสงค์ ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี (ตรงข้ามกับศาลหลักเมือง) ถ.อธิบดี อ.เมือง จ.อุดรธานี
โทร. 0 4221 2827

สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ขอนแก่น
สถานที่ตั้ง: หอประชุมอำเภอเมืองขอนแก่น ถนนศูนย์ราชการ อ.เมือง จ.ขอนแก่น 
โทร. 0 4324 2707

สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว อุบลราชธานี
สถานที่ตั้ง: อาคารศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ชั้น 1 ด้านหลังฝั่งทิศตะวันตก จ.อุบลราชธานี
โทร. 0 4534 4581-2

สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว นครราชสีมา
ที่อยู่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ถ.มหาดไทย อ.เมือง จ.นครราชสีมา
โทร. 0 4424 3132

สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จันทบุรี
สถานที่ตั้ง: อาคารลานค้าชุมชน ถ.เลียบเนิน ต.วัดใหม่ อ.เมือง จ.จันทบุรี
โทร. 0 3930 1706-9

สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว สุราษฎร์ธานี
สถานที่ตั้ง: ศาลาประชาคม ถ.หน้าเมือง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี
โทร. 0 7727 4940

สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ภูเก็ต
สถานที่ตั้ง: ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ถ.นริศร อ.เมือง จ.ภูเก็ต
โทร. 0 7622 2080

สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว สงขลา
สถานที่ตั้ง: ศูนย์ราชการจังหวัดสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา
โทร. 0 7432 6508-10

สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ยะลา
สถานที่ตั้ง: ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) 
ถ.สุขยางค์ อ.เมือง จ.ยะลา
โทร. 0 7327 4526

สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว พัทยา
สถานที่ตั้ง: ศูนย์การค้าพัทยาอเวนิว ชั้น 1 ถ.พัทยาสาย 2 ต.หนองปรือ
อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
โทร. 0 3842 2438


    ส่วนคนใหนที่อยู่ต่างประเทศก็สามารถติดต่อทำพาสปอร์ตไทยเล่มใหม่ได้ที่ สถานทูตไทยประจำประเทศนั้นๆได้เลยนะคะ เช่น ถ้าอยู่ที่ญี่ปุ่นหลายปี แล้วจะเดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านที่ไทย ตรวจดูพาสปอร์ตหมดอายุแล้ว หรือใกล้หมดมีอายุน้อยกว่า 6 เดือน ก็สามารถไปต่อหรือทำ พาสปอร์ตใหม่ได้ที่สถานทูตไทยใกล้บ้านได้เลยนะคะ

วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2562

ฤดูกาลในประเทศญี่ปุ่น


ฤดูกาล
ประเทศญี่ปุ่นมี 4 ฤดู คือ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว แต่ละฤดูกาล สามารถแบ่งได้คร่าวๆ เป็นฤดูกาลละ 3 เดือน ดังต่อไปนี้

① ฤดูใบไม้ผลิ       มีนาคม      -     พฤษภาคม
② ฤดูร้อน             มิถุนายน    -     สิงหาคม
(ในช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปี ที่ญี่ปุ่นจะเป็นช่วงหน้าฝน ฝนจะตกแทบทุกวัน อากาศจะชื้นมาก เมื่อหมดหน้าฝนไปแล้ว ก็จะเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อน )
③ ฤดูใบไม้ร่วง      กันยายน     -     พฤศจิกายน
④ ฤดูหนาว           ธันวาคม     -     กุมภาพันธ์

     วันนี้เรามาให้ความรู้เกี่ยวกับฤดูกาลทั้ง 4 ของประเทศญี่ปุ่น บางคนอาจจะเคยเห็น ตุ๊กตาฮินะ ธงปลาคาร์พ ต้นไผ่ประดับด้วยกระดาษขอพรในเทศกาลทานาบาตะ แต่ก็คงจะไม่ทราบว่าเป็นของเทศกาลอะไร เป็นช่วงฤดูอะไรของประเทศญี่ปุ่น แต่ถ้าขึ้นชื่อว่าเป็นคนญี่ปุ่นแล้วก็สามารถตอบได้ว่า เทศกาลฮินามัตสึ คือวันที่ 3 มีนาคม วันเด็กคือวันที่ 5 พฤษภาคม วันทานาบาตะคือวันที่ 7 เดือนกรกฎาคม
ในแต่ละฤดูกาลจะมีเทศกาลแตกต่างกันไป ซึ่งการที่ประเทศญี่ปุ่นจะมี 4 ฤดู ทำให้คนญี่ปุ่นมักมีนิสัยวางแผน เช่นว่า ภายในช่วงฤดูนี้จะต้องพยายามให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ และสามารถพยายามเพื่ออนาคตวันข้างหน้า

24 ฤดู 72 สภาพอากาศ”  nijuyonsetsuki nanajunisoro ”
ปฏิทินโบราณ สำหรับการสังเกตการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล
      ชาวญี่ปุ่นชอบการเดินเล่นเป็นชีวิตจิตใจ มักจะชวนคู่รักหรือเพื่อนฝูงไปเดินเล่น ชมความงามตามธรรมชาติ ของดอกไม้ในแต่ละฤดูกาล  เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิคนญี่ปุ่นเรียกได้ว่าแทบจะทุกคนจะต้องไปชมดอกซากุระ ( ภาษาญี่ปุ่นเรียกการชมดอกซากุระว่า “โอฮานามิ ” ) จะเห็นได้ว่าคนญี่ปุ่นนั้นเป็นชาติที่นิยมการดื่มด่ำไปกับการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล ซึ่งการที่มีปฏิทินโบราณ  สำหรับการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล ที่เรียกว่า ”  nijuyonsetsuki nanajunisoro ” ก็สามารถยืนยันเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี ถ้าพูดถึง   (risshun )  (geshi ) (shuubun) ( touji ) ”  อาจจะเข้าใจได้ยากสักนิด แต่ถ้าพูดถึง ”shunbunnohi” วันในฤดูใบไม้ผลิที่กลางวันและกลางคืนยาวเท่ากัน คิดว่าทุกท่านน่าจะพอเคยได้ยินมาบ้าง

กิจกรรมและเทศกาลในหนึ่งปี
เทศกาลต่างๆตลอดทั้งปี มีลักษณะเฉพาะฤดูกาลนั้น
การที่มี 4 ฤดู ไม่ใช่แค่ปรากฏการณ์ของฤดูกาล แต่ยังมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงไปถึงเทศกาลต่างๆที่มี ตลอดปีด้วย เมื่อเราเข้ามาเป็นสะใภ้ของครอบครัวชาวญี่ปุ่นแล้ว เราก็อาจจะต้องเข้าร่วมกิจกรรมหรือเทศกาลต่างๆ ร่วมกับครอบครัวหรือเครือญาติๆของสามีด้วย
      ที่เมืองไทยก็มีเทศกาลที่มีชื่อเสียงเช่น งานลอยกระทง หรือประเพณีสงกรานต์ แต่ในกรณีของประเทศญี่ปุ่น เทศกาลต่างๆ ล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตามแต่ฤดูกาลทั้งนั้น
       การจะทำความเข้าใจกับเทศกาลทั้งหมดในญี่ปุ่นคงยากจนเกินไป เพราะฉะนั้นในช่วงแรกขอให้สมาชิกเข้าใจเรื่องนี้คร่าวๆ โดยจะกล่าวถึงเทศกาลสำคัญๆ ดังนี้
ความรู้เกี่ยวกับเทศกาลต่างๆในตลอดหนึ่งปี 
ฤดูหนาว
  • ฮัตสึโมเดะ         ( การไหว้พระปีใหม่ )
  • คาดะมัตสึ          ( กิ่งสนประดับประตูบ้านในวันเทศกาลปีใหม่ )
  • คางามิโมจิ         (ดมจิสำหรับไหว้ในเทศกาลปีใหม่ )
  • โอเซจิเรียวริ       ( อาหารพิเศษที่ทานในช่วงปีใหม่ )
  • โอะโซนิ            ( อาหารประเภทต้มใส่โมจิ นิยมทานช่วงปีใหม่ )
  • โอโทชิดามะ      ( แต๊ะเอีย )
  • ชิเมคาซาริ         ( เชือกประดับประตูบ้านเทศกาลปีใหม่ )
  • ชิชิไม               ( การเชิดสิงโต )
  • ฮาเนะสึคิ           ( การละเล่นตีลูกขนไก่ )
  • โคมะมาวาชิ       ( การละเล่นลูกข่าง )
  • ทาโกะอาเงะ      ( การละเล่นชักว่าว)
  • คารุตะ              ( การละเล่นจับคู๋การ์ดกลอน )
  • เน็งกะโจ           ( ไปรษณีย์บัตรอวยพรปีใหม่ )
  • โมจิสึคิ             ( การตำแป้งข้าวเหนียวในวันปีใหม่
  • โคทัตสึ            ( ตะทำความร้อน )
  • เซ็ตสึบุน           ( เทศกาลปาถั่ว )
ฤดูใบไม้ผลิ    
  • ฮินะมัตสึริ                          (เทศกาลวันเด็กผู้หญิง)
  • โอะฮานามิ                         (การชมดอกซากุระ)
  • โค่ยโนโบริ – คาบุดตะ       (ธงปลาคาร์พและชุดเหล็กที่สวมกับชุดเกราะ ซึ่งเป็นของประดับใเทศกาลวันเด็ก)
ฤดูร้อน
  • ทานาบาตะ          ( วันที่ 7 กรกฎาคม ของทุกปีมีการประดับต้นไผ่ด้วยกระดาษขอพร
  • โอบ้ง                  ( วันที่วิญญาณบรรพบุรุษจะกลับมาเยี่ยมบ้าน )
  • นัตสึมัตสึริ            (เทศกาลฤดูร้อน )
  • บงโอริ                 (การเต้นรำในเทศกาลโอบ้ง )
ฤดูใบไม้ร่วง
  • โอสึคิมิ              ( การชมพระจันทร์ยามค่ำคืน )
  • ชิจิโกะซัง           (เทศกาลลองการเติบโตของเด็กชายและเด็กหญิง )
การเปลี่ยนเสื้อผ้าเข้ากับฤดูกาล
คนญี่ปุ่นเปลี่ยนเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายให้เข้ากับฤดูกาล
      ประเทสญี่ปุ่นมีหลายฤดูกาล จึงต้องมีการเปลี่ยนเสื้อผ้าการแต่งกายให้เข้ากับฤดูกาลภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า  “ koromogae ”    ถ้าเริ่มใช้ชีวิตในญี่ปุ่นแล้ว ก็คงสวมเสื้อหน้าร้อน สวมรองเท้าแตะ ทั้งปีเหมือนตอนที่อยู่เมืองไทยไม่ได้ ถึงที่เมืองไทยจะไม่มีธรรมเนียมเรื่องการใส่ถุงเท้า หรือกางเกงผ้าเพื่อความอบอุ่น  รับรองว่าถ้ามาญี่ปุ่นแล้ว เมื่อถึงฤดูหนาวจะต้องได้ใส่แน่ นอกจากนี้ยังอาจต้องพันผ้าพันคอ และสวมถุงมือด้วย ถ้าหากว่ายังไม่เคยชินกับสภาพอากาศหนาว อาจใช้แผ่นทำความร้อนแบบพกพา เวลานอนก็สามารถใช้ถุงน้ำร้อน หรือผ้าห่มไฟฟ้าได้
คนไทยเราคงจะนึกภาพไม่ออกว่าฤดูหนาวของประเทศญี่ปุ่นนั้นจะหนาวสักแค่ไหน เพราะฉะนั้นการเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม จึงเป็นสำคัญ
        ประเทศญี่ปุ่นมีสภาพอากาศแตกต่างกันตามเขตภูมิภาค เพราะประเทศญี่ปุ่นเป็นเกาะแนวตั้งที่ทอดแนวยาวลงมา เกาะฮอกไกโด ที่อยู่เหนือสุด และเกาะคิวชูที่อยู่ใต้สุด จึงมีสภาพที่แตกต่างกันมาก เหมือนไม่ใช่ประเทศเดียวกันคนไทยคงจะมีน้อยนักที่เคยเห็นหิมะ บางคนพอพูดถึงหิมะที่สวยงาม แต่สำหรับชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในแถบภาคเหนือ หิมะที่กองทับถมกันสูงหลายเมตร ก็เป็นอันตรายเช่นกัน แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าพอเข้าฤดูหนาว เกาะญี่ปุ่นทั้งเกาะจะต้องจมอยู่ใต้กองหิมะ เพราะฉะนั้นก็ขอให้สบายใจได้ โดยจะอธิบายเกี่ยวกับภูมิภาคต่างๆของญี่ปุ่นในหัวข้อถัดไป

    ภูมิภาคกับสภาพอากาศ
ประเทศญี่ปุ่นทั้ง 6 ภูมิภาค มีอุณภูมิแตกต่างกัน
  ประเทศญี่ปุ่นตั้งอยู่ทางตะวันออกของมหาทวีปยูเรเซีย ประกอบด้วยเกาะใหญ่ 4 เกาะ ได้แก่ เกาะฮอนชู เกาะฮออกไกโด เกาะชิโดกุ และเกาะคิวชู และยังมีเกาะขนาดเล็กอื่นๆอีกเป็นจำนวนมาก
 ประเทศญี่ปุ่นตั้งอยู่ตรงบริเวณกึ่งกลางของซีกโลกด้านบน มีทั้งหมด 4 ฤดูกาล อยู่ในเขตพื้นที่อุณหภูมิอบอุ่น เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นทอดแนวยาวเป็นแนวตั้ง ในภาคเหนือจึงมีสภาพอากาศแบบเขตหนาว ส่วนเกาะทางใต้ จึงมีสภาพอากาศเขตร้อน  ด้วยอิทธิพลของกระแสลมตามฤดูกาล ทำให้ในนฤดูร้อนมีฝนตกมากในฝั่งแปซิฟิก และในเขตฤดูหนาวมีฝนตกมากในฝั่งทะเลญี่ปุ่น ในช่วงต้นฤดูร้อน จะมีฝนตกมากในหลายพื้นที่ ยกเว้น ในเกาะฮอกไกโด ซึ่งจะเรียกช่วงนี้ว่า “ สึยุ ” (ฤดูฝน ) ในช่วงปลายหน้าร้อนจนถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วง ในพื้นที่ใกล้เคียงเส้นศูนย์สูตรจะเกิดกลุ่มความกดอากาศต่ำแบบเขตร้อน เมื่อคลื่นตัวเข้าใกล้ประเทศญี่ปุ่น ก็จะมีสภาพเป็นพายุใต้ฝุ่น ทำให้เกิดฝนตกหนัก และบางทีก็ทำให้เกิดภัยธรรมชาติได้

สภาพภูมิอากาศของญี่ปุ่น สามารถแบ่งได้คร่าวๆเป็น 6 ชนิด 

① ภูมิอากาศเขตฮอกไกโด ไม่มีฤดูฝน ปริมาณฝนตกน้อย เมื่อเข้าฤดูหนาวจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยติดลบประมาณ 4 เดือน
② ภูมิอากาศฝั่งทะเลแปซิฟิก ในฤดูร้อนจะมีปริมาณฝนตกน้อยมาก เนื่องจากอิทธิพลของกระแสลมจากทิศตะวันออกเฉียงใต้ในหน้าร้อน
③ ภูมิอากาศฝั่งทะเลญี่ปุ่น ในฤดูหนาวจะมีปริมาณฝนตกมาก เนื่องจากอิทธิพลของกระแสลมจากทิศตะวันตกเฉียงเหนือในหน้าหนาว
④ ภูมิอากาศเขตจูโอโคจิ  มีปริมาณน้ำฝนน้อยมาก เนื่องจากล้อมรอบไปด้วยภูเขา
⑤ ภูมิอากาศเขตทะเลเซโตไน  มีปริมาณน้ำฝนน้อยมาก เนื่องจากกระแสลมตามฤดูกาลจะถูกปิดกั้น  โดยแนวเขาในเขตชิโกกุในฤดูร้อน และโดยแนวภูเขาในเขตจูโงคุในฤดูหนาว
⑥ ภูมิอากาศของหมู่เกาะทางตะวันตกเฉียงใต้   ในเขตโอกินาว่า อุณหภูมิเฉลี่ยในหนึ่งเดือนโดยเฉลี่ยสูงเกิน 22 องศา

ท่านคงกำลังสงสัยว่าตัวท่านจะได้ไปอาศัยในเขตอากาศลักษณะไหน ลองดูตามด้านล่างนี้ แล้วจะเข้าใจมากขึ้นค่ะ
① ภูมิภาคเขตฮอกไกโด      จังหวัดฮอกไกโด, ซับโปโร
② ภูมิภาคฝั่งทะเลแปซิฟิก    กรุงโตเกียว , จังหวัดกายามะ      
③ ภูมิภาคฝั่งทะเลญี่ปุ่น        จังหวัดนิอิงาตะ, คานาวาวะ,โทตโทริ          
④ ภูมิภคเขตจูดอโคจิ           จังหวัดนางาดนะ, มัตสึโมโตะ
⑤ ภูมิภาคเขตทะเลเซโตไน   จังหวัดโอคายามะ, คางาวะ, ทาคามัตสึ,โออิตะ
⑥ ภูมิภาคของหมู่เกาะทางตะวันตกเฉียงใต้        จังหวัดโอกินาวะ, นาฮา