วันอังคารที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

"ภาษาญี่ปุ่น"


วันนี้มาผ่อนคลายเรื่องเอกสารกันสักหน่อยนะคะ เรามาทำความรู้จักกับ "ภาษาญี่ปุ่น" กันดีกว่าค่ะว่าเป็นยังไง สำหรับบางคนที่อาจจะกำลังเริ่มเรียนหรือเริ่มมีแฟนคนญี่ปุ่น อาจจะกำลังอยากเรียน มาอ่านกันสักนิดนะ
"ภาษาญี่ปุ่น" 
*คันจิ,คาตาคานะ,ฮิรางานะ*
ภาษาญี่ปุ่น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาที่เข้าใจยาก เพราะในโครงสร้างของประโยคต้องมีการใช้ตัวอักษรถึง 3 ชนิด คือ คันจิ คาตาคานะ และฮิรางานะ สำหรับคนไทยการจดจำตัวคันจิอาจจะเป็นสิ่งที่ยากมาก แต่ถ้าใช้แค่ตัวอักษรฮิรางานะเพียงอย่างเดียว อาจจะมีบางกรณีที่ไม่สามารถสื่อสารความหมายให้อีกฝ่ายเข้าใจได้ ยกตัวอย่างเช่นคำว่า 
"ame"(อาเมะ)
ซึ่งคำนี้มีทั้ง อาเมะ ที่แปลว่า ฝน = 雨
และ อาเมะ ที่แปลว่า ลูกอม = 飴

 
ในกรณีนี้ถ้าเขียนด้วยตัวฮิรางานะ คนญี่ปุ่นก็จะไม่เข้าใจว่าเป็นคำไหน ซึ่งก็ไม่ได้มีแค่เพียงคำนามอย่างเดียวลองดูตัวอย่างคำกริยากันบ้าง

"kakeru"(คาเครุ)
ถ้าพูดถึงคำนี้ "kakeru" ทุกคนจะนึกถึงอะไร ส่วนใหญ่คงจะนึกถึง การคุยโทรศัพท์ แต่นอกจากนี้ก็ยังมีคำกริยาอื่นๆที่ใช้คำว่า "kakeru" อีกหลายคำ เช่น
"แขวนเสื้อนอก"
"นั่งเก้าอี้"
"วิ่งบนทุ่งหญ้า" 

        ซึ่งแต่ละคำก็มีความหมายที่ไม่เหมือนกันเลย
นอกจากนี้ในภาษาญี่ปุ่นก็ยังมีคำยืนยันจากภาษาต่างประเทศ ซึ่งคำเหล่านี้จะเขียนด้วยตัวคาตาคานะ สำหรับคนที่เก่งภาษาอังกฤษอยู่แล้ว ถ้ามาเจอตัวอักษรตัวนี้เข้า อาจจะสับสนได้เหมือนกัน นอกจากนี้ก็มีคำศัพท์ภาษาโปรตุเกสบางคำ ที่นำมาใช้ในรูปของตัวคาตาคานะด้วย
       สำหรับหลายคนภาษาญี่ปุ่นคือภาษาที่ยากมาก แต่ถ้าเป็นแฟนกันแล้ว แอดมินว่าทั้งคู่จะมีความพยายามที่จะสื่อสารกันไม่ว่าจะด้วยวิธีใดใด ไม่จำเป็นว่าคนไทยจะต้องเข้าใจภาษาญี่ปุ่นให้ได้ทั้งหมด หรือคนญี่ปุ่นจะต้องเข้าใจภาษไทยให้ได้ เรื่องชีวิตคู่เป็นเรื่องของความเข้าใจซึ่งกันกันมากกว่าค่ะ ขอให้ทุกคนที่กำลังจะใช้ชีวิตคู่กับคนญี่ปุ่นใช้ชีวิตอย่างมีความสุขนะคะ😄😄😄

เรื่องงานเอกสาร หรือล่าม ติดต่อเรามาได้ที่
Tel : 02-187-4009
Mobile : 061-386-7798,087-687-8719

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น